หลังจากที่เธอคนนี้อกหัก เธอจึงแต่งงานกับหนุ่มจนๆ แต่พอสี่ปีผ่านไป สมุดบัญชีที่เขายื่นให้นั้นทำให้เธอซึ้งจนน้ำตาไหล…
หญิงสาวคนหนึ่งหลังจากที่เธอได้เลิกรากับแฟนหนุ่มแล้ว เธอรู้สึกเสียใจมากๆ แต่เพื่อนชายหนุ่มข้างบ้านก็คอยมาปลอบใจและเอาใจใส่ดูแลเธอเสมอ พาเธอออกมาจากช่วงเวลาที่โศกเศร้านั้น เธอรู้สึกขอบใจชายหนุ่มรายนี้มาก ถึงแม้ว่าตัวเองไม่ได้รักเขา แต่เขาก็ยังคงมาเอาใจใส่ดูแลเธออยู่เสมอ ถ้าได้อยู่กับผู้ชายแบบนี้คงจะไม่ต้องเผชิญกับความเสียใจแน่นอน ดังนั้น เธอเลยยอมแต่งงานกับชายหนุ่มรายนี้ ทีแรกชายหนุ่มอยากจะพาเธอไปถ่ายภาพแต่งงาน แต่เธอฟังแล้วไม่เห็นด้วย เพราะเธอรู้สึกว่าการแต่งงานของสองคนมันเร็วเกินไป ไม่แน่ว่าสักวันสองคนอาจต้องแยกทางกันไปก็ได้ การถ่ายภาพแต่งงานมันเสียเงินเปล่าๆ
ทั้งสองคนต่างก็ทำงานอยู่ในเมืองแห่งนี้ ทั้งสองคนแต่งงานกันโดยไม่ได้จัดทำพิธีอะไรเพราะรายได้ของชายหนุ่มไม่ค่อยดี ทุกวันต้องออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ 6:00 เช้า กว่าจะกลับบ้านได้ก็ต้องหลัง 18:00 ไป สำหรับเธอทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตและเวลาเข้างานก็ไม่ค่อยแน่นอนมาก ดังนั้น สองคนจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกัน
ชายหนุ่มรู้สึกว่าการใช้ชีวิตของสองคนมีปัญหา ทั้งคู่แม้แต่เวลาที่จะกินข้าวด้วยกันก็ยังไม่มีเลย แต่สำหรับเธอ เรื่องพวกนี้เธอไม่สนใจอะไรเลย ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจไปซื้อรถจักรยานมาเพื่อขี่กลับบ้านเพื่อมาทำอาหารเที่ยงแล้วกินกับเธอด้วยกัน ตอนแรกๆเธอไม่เข้าใจในการกระทำของชายหนุ่ม แต่หลังจากที่เธอได้เห็นสภาพที่แฟนหนุ่มของเธอขี่รถจักรยานอยู่ใต้แสงแดด เธอเริ่มรู้สึกใจอ่อนและเริ่มทำอาหารกลางวันแล้วรอเขากลับมากินด้วยกัน และบางทีสองคนก็ออกจากบ้านไปทำงานพร้อมกัน
เมื่อถึงวันครบรอบวันเกิดของเธอหลังจากแต่งงานกันมา ด้วยความเป็นห่วงว่าแฟนหนุ่มจะเสียเงินเยอะ เธอเลยบอกกับแฟนหนุ่มของเธอว่า “คุณซื้อของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆก็พอ ไม่ต้องไปซื้อดอกกุหลาบนะ มันเสียเงิน” แฟนหนุ่มตอบเธอว่า “ผมไม่ได้คิดจะซื้อดอกกุหลาบอยู่แล้ว” คำตอบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ พอถึงวันเกิดของเธอ เมื่อเธอเลิกงานกลับมาถึงห้อง เธอเห็นเค้กอันเล็กอันหนึ่งวางบนโต๊ะพร้อมกับซองจดหมายอันหนึ่ง เธอเดาว่าข้างในคงต้องเป็นการ์ดอวยพรที่ถูกๆแน่นอนเลย ซึ่งมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจมากขึ้น
เมื่อเธอเปิดซองจดหมายนั้นดูพบว่ามีสมุดบัญชีเล่มหนึ่งอยู่ในนั้น และยอดเงินในสมุดบัญชีเล่มนี้มีเพียง 300 หยวนเท่านั้น จากนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็เดินออกมาพร้อมบอกกับเธอว่า “จากนี้ไปผมจะฝากเงินให้คุณเดือนละ 300 หยวนถือว่าเป็นเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญให้คุณ งานของคุณไม่มั่นคง ในขณะที่ผมยังหนุ่มผมก็เริ่มเก็บเงินให้คุณ ในอนาคตคุณอยากจะทำอะไรก็ได้ ถึงแม้ว่าเงินเดือนของผมไม่เยอะแต่ผมสัญญา หลังจากนี้ไปจะมี 300 หยวนเป็นของคุณในทุกเดือนแน่นอน”
▼เมื่อเธอได้เปิดสมุดบัญชีดู เธอรู้สึกซึ้งใจมากๆ
เพื่อรักษาคำสัญญา ชายหนุ่มต้องทำโอทีเป็นประจำ มีเวลาว่างยังจะไปทำงานที่โรงงานรีไซเคิลอีกด้วย เธอรู้สึกว่างานของแฟนหนุ่มมันหนักเกินไป เธอไม่อยากจะให้เขาเหนื่อยถึงขนาดนั้น แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะทำทุกอย่าง เธอได้แต่ช่วยเตรียมผ้าขนหนูและน้ำชาให้เขาเท่านั้น หลายคนที่ทำงานด้วยกันต่างก็อิจฉาชายหนุ่มคนนี้มาก คิดว่าสองคนนี้รักกันมาก
4 ปีต่อมา ทั้งสองคนได้ซื้อบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง ในระหว่างที่กำลังจัดเก็บย้ายของ เธอได้เปิดภาพถ่ายของทั้งสองคนดู ตัวเองที่อยู่ในภาพถ่ายเหล่านั้นต่างก็มีรอยยิ้มที่มีความสุข ดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขจัง จนถึงขณะนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่า ที่แท้ชีวิตของตัวเองมีความสุขมาก
แล้วแฟนหนุ่มก็ได้ยื่นสมุดบัญชีมาให้เธอเก็บเอง เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาเองจะเป็นคนที่เก็บ เมื่อเธอได้เปิดสมุดบัญชีดูใหม่ เธอถึงกับต้องตกใจครั้งใหญ่เพราะว่าจากยอดเงิน300หยวนในครั้งนั้นตอนนี้ได้เพิ่มตัวเลขขึ้นอีกมากมาย เธอรู้สึกซึ้งใจมากๆจนน้ำตาไหล แฟนหนุ่มยิ้มและบอกกับเธอว่า “ความจริงแล้วบางครั้งผมเองก็กลัวอยู่ว่าผมจะสู้ไม่ไหว แต่ผมพูดกับตัวเองเสมอว่า รอดูอีกหน่อยหนึ่ง สักวันคุณก็จะหันมารักผมนี่แหละ ถึงวันนั้นทุกอย่างที่ผมทำก็จะมีคุณค่า ดูสิ ตอนนี้ผมทำแล้ว”
ทั้งคู่ได้กอดกันอย่างมีความสุข จนถึงขณะนี้เธอเพิ่งรู้ว่า ตัวเองได้ตกหลุมรักเขาโดยที่ไม่รู้ตัวมาตั้งนาน