สุดเลว!! งานบวชที่โคราช กำลังจะแห่นาคเข้าโบสถ์ หันมาดูอีกทีมีบางอย่างหายไป แทบจะเป็นลม

สุดเลว!! งานบวชที่โคราช กำลังจะแห่นาคเข้าโบสถ์ หันมาดูอีกทีมีบางอย่างหายไป แทบจะเป็นลม


























ฉกทองจากบาตรพระบวชใหม่ที่ด่านขุนทด โคราช น้ำหนัก 48 บาท ค่ากว่า 1.5 ล้าน หนีลอยนวล ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวหลังญาติเข้าแจ้งความ

VVVNDX_71uquw

































วานนี้ 
ที่ สภ.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายสมภพ อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ครองชัย ตาลประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ว่า มีเหตุคนร้ายแฝงตัวเข้าไปลักสร้อยทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 48 บาทหลบหนีไป

นายสมภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ตนจัดพิธีอุปสมบทให้ นายพงษ์รัตน์ อายุ 21 ปี บุตรชาย ที่อุโบสถวัดกระทุ่มโพรง ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด โดยมีพิธีแห่นาครอบอุโบสถ ซึ่งญาติสนิท มิตรสหาย ได้รวบรวมทองคำเนื่องจากมีความเชื่อว่าหากนำพระ และเครื่องลางของขลังใส่ในบาตรพระใหม่ที่เข้าพิธีอุปสมบทแล้วจะช่วยเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์และขลังมากขึ้น จึงต่างพากันถอดสร้อยคอทองคำ และพระเครื่องสวมใส่ให้นาคไว้ และในช่วงเข้าพิธีอุปสมบทให้นำใส่บาตรเพื่อปลุกเสก
ทั้งนี้เมื่อแห่นาครอบพระอุโบสถครบ 3 รอบ ก่อนเข้าโบสถ์ นาคจึงถอดสร้อยคอทองคำของมีค่าทั้งหมด ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 14 บาท หนัก 5 บาท หนัก 4บาท หนัก 3 บาท หนัก 2 บาท อย่างละ 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทองหนักราว 25 บาท รวมน้ำหนักกว่า 48 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท ใส่ในบาตร โดยมีการถ่ายภาพนิ่งเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันอุ้มนาคแตะที่ขอบประตูอุโบสถ คนร้ายซึ่งเป็นหญิงสูงวัย รูปร่างท่วมถึงอ้วนใบหน้ากลมผิวคล้ำ ซึ่งไม่มีใครรู้จัก และไม่คุ้นหน้าได้ฝ่าวงล้อมญาติมิตรเข้ามายืนข้างนายสมภพ ไม่มีใครสงสัย กระทั่งนำนาคเข้าโบสถ์พบว่าสร้อยคอทองคำได้หายไปแล้วพร้อมหญิงคนดังกล่าว
หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผู้กำกับการ สภ.ด่านขุนทด ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งหาเบาะแสผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนให้แน่ชัด เบื้องต้นทราบว่าหญิงต้องสงสัยคือ นางชม อายุ 48 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุล้วงกระเป๋าในเขตท้องที่ อ.ด่านขุนทด มาแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วนต่อไป – สำนักข่าวไทย