จากการสอบสวนนายอรศรี อายุ 55 ปี บิดาของผู้ตาย ให้การว่า ลูกสาวเคยไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย แล้วไปพบรักกับหนุ่มชาวมาเลเซีย จากนั้นก็ได้พากันกลับมาอยู่ที่บ้านอุดรฯ โดยลูกสาวได้ไปทำงานที่ร้านขายทองในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรฯ แต่ช่วง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ทั้ง 2 คน มีเรื่องไม่เข้าใจกัน จึงได้แยกกันอยู่ ตนและภรรยาก็จะแวะเวียนมาเยี่ยมลูกสาวเป็นประจำ เนื่องจากลูกสาวมีโรคประจำตัว คือ โรคหอบ หืด ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เกิด ซึ่งต้องกินยาและใช้ยารักษาตลอด

นายอรศรี ให้การอีกว่า วันนี้ได้มาเยี่ยมลูกสาวเพื่อพูดคุยเรื่องของการเตรียมกำหนดวันแต่งงาน ซึ่งลูกสาวกับแฟนหนุ่มจะจัดงานแต่งกันในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ แต่เมื่อมาถึง เห็นบ้านเปิดอยู่ ก็ร้องเรียกลูกสาวแต่ไม่มีเสียงตอบ ตนจึงเดินเข้ามาเคาะห้อง แต่ลูกสาวไม่เปิด ตนจึงพังประตูเข้ามา พบว่าลูกสาวนอนเสียชีวิต ที่พื้นห้องนอนดังกล่าว ขณะเดียวกัน หลังแฟนหนุ่มทราบข่าวก็รีบมาที่บ้านดังกล่าว ตรงเข้ากอดนายอรศรี แล้วก็ร้องไห้โฮออกมา ด้วยความเสียใจ ก่อนที่จะก้มลงไปจูบหน้าผากแฟนสาว ที่เสียชีวิต

หลังจากนั้นแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้ตายคงเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 5 ชั่วโมง ที่บริเวณร่างกายที่เป็นรอยช้ำ เนื่องจากปฏิกิริยาของเลือด ไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุ การกินยาหรือใช้ยาเสริมความงาม มากเกินไป อีกทั้งผู้ตายมีโรคประจำตัว จึงทำให้ช็อก จนเสียชีวิต


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต และมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลต่อไป โดยแพทย์ได้ฝากเตือนผู้มีโรคประจำตัว ควรเลี่ยงการใช้ยาเสริมความงามประเภท ยากลูต้าหรือยาที่มีผลกระทบต่อโรคประจำตัว ซึ่งเป็นอันตราย อาจจะทำให้เสียชีวิตดังกล่าว